15.10.05

BOM3

เพิ่งอ่านBooks of Magic: Children Cruasadeจบหมาดๆ นี่แหละ ไปด้อมๆ มองๆ ร้านซีเอ็ดที่โลตัสแถวบ้านร่วมอาทิตย์แน่ะ พอรู้ว่าจะออกเดือนนี้ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้เข้าน้อยมาก แล้วก็มาแล้วไปเลย ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่คงทนบนชั้นนานเหลือเกิน (เล่ม1-2หายจ้อยภายในไม่กี่วัน)

ความรู้สึกหรอ ผิดหวังนิดหน่อย แต่อ่านเพลินๆ ก็สนุกดี ไม่มีสะดุดเท่าไหร่ มีเหตุการ์ณไม่ค่อยน่าจะเกิดเยอะ แต่เพราะเป็นแฟนตาซี เลยปล่อยๆ ให้ผ่านไปได้ ถึงจะตะหงิดๆ กับเหตุการ์ณที่ต่างจากในการ์ตูนแบบหลุกหลิกชอบกล (ไม่ชอบอ่า ชอบแบบต้นฉบับมันให้อารมณ์ขลังสุดๆ) ที่ทำให้เราผิดหวังคงที่ความ "อ่อน" ของเรื่อง เราชอบเรื่องนี้ที่ความมืด อ่านแล้วจะเครียดมากก่าให้อารมณ์ใสๆ แบบในภาคนิยาย (ยิ่งภาพโทนมืดยิ่งได้อารมณ์สุดๆ) ถึงปกติจะไม่ชอบเรื่องหดหู่ แต่กับเรื่องนี้อยากให้เป็นนิยายสำหรับผู้ใหญ่มากกว่านี้ มันไม่ใช่ BOM ถ้าไม่หดหู่ ในแบบพิลึกๆ มากก่าจะโหดร้าย คล้ายๆ อ่านนิยายกริมน่ะ มีความขลังที่ซ่อนอยู่ในยาพิษบนสีสันของเรื่องราวที่สดใส แต่ภาคนิยายของBOMนี่ไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่เลยแฮะ สำนวนเหมือนนิยายวัยรุ่นไปนิด อยากให้เขียนให้เครียดๆ ไปเลยจัง.. (สรุปว่าอยากให้คนอื่นเขียนมากก่าคาร์ล่า แจบลอนสกี้ง่ะ)

เล่ม3 เหมือนภาคเสริมเลย เพราะไม่อ่านเจอในภาคการ์ตูน (หรือเราซื้อไม่ครบหว่า?)เลยรู้สึกเหมือนอ่านเพลินๆ ไม่ค่อยติมากเหมือนสองเล่มแรก แต่ทำให้รู้สึกแย่ เพราะธีมเรื่องมันไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า? แหง่มๆ ทิมนี่เด๋วก็ใสซื่อเด๋วก็เจ้าเล่ห์ ไม่รู้สิ เรามองทิมเป็นคนเงียบๆ แต่มีทัศนคติที่แน่วแน่มากกว่านะ ผิดภาพลักษณ์ที่ตั้งใจไปนิดๆ ล่ะมั้ง ไทเทเนียไม่ค่อยเท่ห์เลยแฮะ ยิ่งบรรยายให้สวยเท่าไหร่ยิ่ง.. ป๊ะป๋าไม่ค่อยเปลี่ยนเลย แต่คาดว่าเล่มต่อไปน่าจะมีบทมากกว่านี้

ขอบ่นหน่อยเหอะ สปอยล์โต้งๆ เลย ไม่พอใจอย่างแรงที่ยกตอนจบของเล่มสองภาคการ์ตูน มาลงในเล่มของภาคนิยาย แถมเปลี่ยนเหตุการณ์ซะทิมดูงี่เง่าไปเลยอ่ะ ความจริงท้ายเล่มสองทิมต้องตื่นขึ้นมาพบว่าแทมลิมตายเพราะตัวเอง ตอนนั้นไทเทเนียโผล่มาพอดี แล้วก็ต่อว่าทิมอย่างแรงด้วยความรักที่มีให้กับแทมลิน จนทิมตัดสินใจได้ (นอกจากคำสั่งสอนจากเดธแล้ว) ว่า ชีวิตของตัวเองก็ย่อมเป็นของตัวเอง ถึงแม้ผู้ให้กำเนิดจะเป็นใครก็ตาม (ไทเทเนียสมอ้างว่าตัวเองเป็นคนให้กำเนิดทิมด้วย ซึ่งทิมก็เชื่อสนิทเลยล่ะ เพราะมันจะกลายเป็นปมของตอนต่อๆ มาอีกทอดนึง สรุปว่าหลังจากเล่มสอง ทิมจะเข้าใจว่าตัวเองเป็นลูกของแทมลินกับไทเทเนีย ส่วนเรื่องแม่ ถึงจะใช่ไม่ใช่ ทิมก็ยังคิดว่าแม่ที่ตายไปเป็นแม่ตัวเองอยู่ดีน่ะแหละ เหมือนกับพ่อที่เลี้ยงมานั่นแหละ เด็กคนนี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับครอบครัวฮันเตอร์ด้วยวิธีนี้นะ) แล้วก็จากไปด้วยหินจากแทมลินพร้อมกับคำพูดแสบๆ คันๆ ให้ไทเทเนีย (ชอบมากกกกก) ไม่มีการร้องไห้คร่ำครวนให้ดูน่าสมเพชเลย ทิมในการ์ตูนแข็งแกร่งกว่าที่นิยายแต่งไว้นะเราว่า ถึงจะสับสนในตัวเองเอาการ แต่ไม่ได้อ่อนแอแน่นอน แล้วตอนที่ทิมไปเยี่ยมสุสานของแม่ก็เป็นของอีกช่วงเวลานึง ของอีกเหตุการณ์นึงเลย ซึ่งจะเกิดหลังจากการปรากฎตัวของมาร์ย่าซะอีก(อันนี้ไม่ว่ากันหรอก แต่ถ้างั้นทิมจะไปเจอกับตัวเองอีกคนได้ไงล่ะ ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้แล้ว?) ฮึ้ยยยยยย เล่มแรกก็โดนตัดตอนซะ รายละเอียดหายยิบเลย (เสียดายสุดๆ)เล่มสองก็ยืดๆ พิกล เล่มสามยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่... เล่มสี่น่าจะเข้าจะเหตุการณ์ในการ์ตูนแล้ว แต่แหม แต่งซะฟรีคันทรี่หมดความขลังเลยแฮะ ถึงจะมีที่มาที่ไปก้อเหอะ เฮ้อ~ พลิกเนื้อเรื่องเข้าปาย แต่จะพยายามไม่คิดมาก เพราะจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ น่ะแหละ แง่บๆ อย่าเลิกพิมพ์ละกัน

ที่จิงอยากเขียนเป็นengจัง แต่เพราะรู้แล้วว่าBlogไม่ใช่แค่สถานที่ให้ระบายอารมณ์ ยิ่งภาษาห่วยๆ ของตัวเองด้วยแล้ว ค่อนข้างเซ็งนิดๆ ที่ต้องมานั่งอธิบายบางอย่างให้คนที่ไม่ยอมเปิดใจรับเข้าใจว่า มันก็แค่ความเห็นของฉันนะ ถ้าไม่พอใจก็อย่ามาเรียกร้องอะไรจากชั้นสิ ฟังเหมือนไม่ค่อยรับผิดชอบกับคำพูดเลยใช่มะ? แต่มันก็แค่ความเห็นที่แตกต่างกัน ถ้ายอมรับกันได้ก็จบ ไม่เห็นต้องมานั่งตัดพ้อเหมือนความเห็นคนอื่นผิดนิ? ทำให้เรากลัวการเขียนความรู้สึกของตัวเองลงblogเลย มันก็เป็นผลลัพธ์ประเภทนึงอ่ะนะ ไอ้การพิมพ์ข้อความลงบนที่สาธารณะให้ชาวบ้านเค้าอ่านกัน แล้วก็มานั่งถกกันว่าใครถูกใครผิด ฟุ ฟุ ไม่เชิงทะเลาะหรอกนะ แต่เราไม่ใช่พวกชอบเอาชนะซะด้วยสิ ถ้าเค้าว่าเค้าถูก ก็ปล่อยๆ ให้เค้าคิดไปดีกว่า...

หลังเทศกาลเจ นน.ขึ้น 1 กก.ค่ะ หึ หึ แบบว่ามีบริจาคเลือดเมื่อต้นเดือนนี้น่ะ แล้วนน.ขาดไป 1 กก. เลยคิดว่า แหม แสดงว่าผอมไปสินะ แบบนี้ต้องขุนตัวเองหน่อยแล้ว (ฮา) ว่าแล้วพอเข้าเจก็โซ้ยแหลกมันทุกวัน มีฟามสุขมากกกกกก หากินง่ายดี แต่คิดว่าหลังจากนี้ก้อคงเ้ข้าอีหรอบเดิมล่ะนะ ปกติก็กินมังฯ อยู่แล้ว เลยไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ ยิ่งไม่ค่อยออกกำลังกายด้วย เลยไม่อยากกินเยอะเข้าไปอีก (ประเภทแป้งนี่เบื่อมากมาย) อืม แต่ปีหน้าจะบริจาคเลือดให้ได้เลยล่ะ!! (ถ้าไม่โดนบอกว่าเป็นโลหิตจางซะก่อนนะ)

ลูกแมวที่บ้าน 4 ตัว ชอบเจ้าตัวลายที่สุดเลย อีก 3 ตัวเหมือนแม่ คือลายดำจุดขาว กำลังซนเป็นบ้า ฮึ้ยยย แต่ตอนนอนโคดดดดดจะน่ารักเลยอ่าาาาาา กรี้ดดดดดดดด แค่มองก็หัวใจละลายแล้วล่ะ แม่มันเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (แหม แอบเหมือนจังเลยนะ) ต้องให้กินยาอยู่ร่วมอาทิตย์ ตอนป้อนยานี่ทรมานจิตใจมันมาก แต่หลังๆ ให้พ่อป้อนให้เลยง่ายขึ้น (ทำเองทำใจลำบากน่ะ) ตอนนี้ก็ยังไม่มีชื่ออยู่ดี... ใครมีไอเดียดีๆ ตั้งให้หน่อยสิ พี่มันตั้งให้ตัวสองตัวแล้ว ตัวนึงพี่บอกว่าตัวดำสนิท หูกางๆ ให้เรียกแบท (ค้างคาว) เลยล้อว่า งั้นต้องยกให้ไซ เพราะชื่อเล่นว่าแบทเหมือนกัน (ฮา) ไม่รู้ไซจะสนมั้ยเนี่ย) แล้วก็มีชื่อประเภท เฟลิกซ์ จากเฟลิกซ์เดอะแคท ส่วนชื่อไดอาน่านี่..ไม่รู้จะเรียกดีมั้ย เพราะมันดำสนิทไป 3 เหลือตัวลายที่ออกเทา แต่ไดอาน่ามันเทาล้วนนินา...ยังเขินที่จะเีรียกแม่แมวว่า ลูน่า อยู่เลย โดนถามว่าชื่ออะไร ก็บอกว่าไม่มีอ่ะ มันไม่เคยขานรับชื่อ เลยไม่กล้าเรียก สุดท้ายคงเป็นเจ้าดำอีกล่ะมั้งเนี่ย...

อืมมมมมม "รำคาญ" ภาษาของตัวเองชะมัด ใครเป็นมั่ง? (ติได้นะว่ารำคาญตรงไหน)

11 comments:

Anonymous said...

ในบล๊อคนี่ อยากเขียนไรก็เขียนไปเถอะ มันถือเป้นที่ส่วนตัวระดับนึงแล้วนี่นา ไม่เห็นด้วย ก็ไม่ต้องมาอ่านซี่.

ได้ลูกแมวใหม่แล้วเหรอ อยากเห็นจัง! XD อีกตัวนึง ชื่อ "กาฟิล" ดิ ;)

วันนี้ขอบคุณที่เลี้ยงไอติมนะ ไว้จะเอา dvd ไปให้ถ้าไม่ลืม :P)

zoe said...

อืมม ถ้าเป็นภาษาไทย เราไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ แต่ถ้าเขียนเป็นEng แล้วสื่อผิดเนี่ย มันอันตรายเอาการ (มีคนแต่งฟิคที่จริงจังโคดๆ แล้วเราดันชอบเรื่องที่เค้าแต่ง เลยเอามาวิจารณ์ตามใจปากตัวเองในบล๊อก แหมม ก็ไม่คิดนิว่าเค้าจะซีเรียสขนาดนั้น เพราะชอบหรอกนะถึงเขียนถึงน่ะ สุดท้ายเค้าตามมาเถียงกะเราเรื่องการ์ตูนที่เค้าบ้าโคดๆ เราก็อืมมม สนใจแค่บางส่วน ยังไงเค้าก็เป็นคนแต่งฟิค ไม่อยากเถียงมาก เลยยอมๆ ไปซะ ดันรู้อีกว่า เราไม่ได้ยอมจริง มันก็ฮาๆ ดี แต่ช่วงนั้นก็หนาวๆ ร้อนๆ กัวตัวเองไปทำให้เค้าผิดใจเลิกแต่งฟิคต่อล่ะเศร้าแย่เลย)

การ์ฟิลน่ะอยากได้ซักตัว แต่มันไม่ใช่แมวสีส้มง่ะ...

เอามาให้ยืมซะดีๆ ยังไม่อยากไปเช่าซึทายะ..

zoe said...

โอ้ว ไอเดียดีจัง ^_^ แต่ที่บ้านเลี้ยงไม่หวายอ่าค่ะ.. เล็งๆ เจ้าตัวลายเอาไว้หนึ่งล่ะ อีก 3 ตัวที่เหลือนี่ถ้าโตแล้วอาจจะหาคนยกให้ หรือไม่ก็อาจต้องเอาไปปล่อย ToT เรื่องการกินไม่เป็นปัญหา แต่มันซนเหลือเกิน แถมแมวถ่ายเรี่ยราดน่ากัวเหลือเกิน บ้านเราดันเป็นร้านขายของ มีสินค้าเต็ม ขืนปล่อยไว้เน่าแน่ แถมไล่ลูกค้าอีก ที่ผ่านมาแมวโตมันจะรู้ตัวดีว่าปล่อยที่บ้านไม่ได้ (เด๋วโดนทิ้ง) อย่างตัวปัจจุบันก็เข้าห้องน้ำเองเป็น แต่กับลูกแมวนี่ไม่รู้จักวิธีใช้ห้องน้ำเลย ตอนนี้แยกเลี้ยงแล้วล่ะ (เอาไปเลี้ยงชั้นบนสุดเลย) สงสารก็สงสาร แต่คงต้องดูแลบ้านด้วย ฮ้าาา เลี้ยงแมวนี่ยากจังเลยแฮะ

อ้อ เป็นแมวดำยกครอก ยกเว้นเจ้าลายเสืออ่ะค่ะ บ้านเราชอบตั้งชื่อตามใจชอบ แต่สุดท้ายก็เรียก เจ้าดำ เจ้าลาย เข้าใจง่ายไว้ก่อน เพราะไม่มีใครเรียกจิงๆ จังๆ กันซักคน ตัวก่อนก็ชื่อ โดราโดรา เพราะดันเหมือนแมวในการ์ตูนที่อ่านอยู่ (ฮา) ลูน่ากับอาร์เทมิสก็ในเซเลอร์มูนไง แต่อาร์เทมิสเดี้ยงไปแล้ว (เศร้า) มีลูน่าตัวใหม่พร้อมลูกๆ แต่ดันไม่มีตัวไหนเหมือนไดอาน่าเลยอ่ะ สรุปว่าเรียกไงก็ได้สินะ ถ้าหาคนรับเลี้ยงได้คงดี >_< ไม่อยากเอาไปปล่อยเท่าไหร่

บล๊อกนี้ก็เขียนเรื่อยเปื่อยอยู่แล้วล่ะค่ะ เป็นคนเรียบเรียงอะไรไม่ค่อยเก่ง ที่จิงกะไว้ฝึกภาษา แต่สุดท้ายก็ได้แค่นี้เอง... พอเจอเรื่องนิดหน่อยก็เกิดอาการท้อ จะพิมพ์ำืEng ก็กัวพูดอะไรไม่ถูกใจใครอีก ที่สำคัญยิ่งเขียนยิ่งมึน นี่ชั้นบ่นหาอะไรเนี่ย?! แต่ก็อยากแลกเปลี่ยนความคิดกับชาวบ้านอยู่นะ

เจนี่ปกติเราก็กินอยู่แล้วอยู่ทุกวันล่ะค่ะ แต่เข้าเทศกาลแล้วมันก้อสบายขึ้นอ่ะนะ เรื่องร่างทรงนี่ เหมือนงานวัดมากก่าเลยเนอะ เค้าทำเพื่อแสดงพลังศรัทธาก็ปล่อยเค้าเถอะ เราไม่ค่อยสน ตั้งหน้าตั้งตากินของอร่อยๆ ยิ่งปีหลังๆ ยิ่งรู้สึกว่าของกินให้เลือกเพียบเลย หุ หุ สบายใจสบายกายดีออก

ตอนอ่านเล่ม 2 ช่วงท้าย รู้สึกผิดหวังแล้วล่ะค่ะ เพราะในภาคการ์ตูนปิดเล่มได้แรงดี มาเจอของที่อ่อนกว่ามันก็เลยเสียดาย รู้สึกสำนวนของคนนี้จะไม่เข้ากะธีมเรื่องเท่าไหร่ ถึงจะบรรยายตัวละครให้ตรงเป๊ะยังไง แต่เสียอรรธรสของBOMไปเยอะ (คนที่ตามภาคคอมิคไม่มีใครพูดถึงภาคนิยายเลย เพราะมันคนละระดับกันอย่างเห็นได้ชัด)มันกลายเป็นแค่ Harry Porter-Wannabe ทั้งๆ ที่มาก่อนตั้งหลายปี แถมเนื้อหาก็แรงกว่า้ด้วย มันเศร้าน่ะค่ะ ที่เรื่องโปรดโดนลดเกรดลงซะงั้น เซ็งงงงง แต่โอกาสที่ภาคคอมิคจะเข้าไทยก็แทบไม่มีเลยด้วย (ขนาดเรื่องดังๆ อย่างแบทแมน, X-menยังท่าทางขายไม่ดีในเมืองไทยเลยนิ)ที่สำคัญอุตส่าห์แปะตรา For Mature Reader ไว้ด้านหลัง แต่กลับเขียนเรื่องแนวเด็กๆ ซะได้ เฮ่ออออออออ แสนเสียดายยยยยย

ไม่ชอบการบรรยายซะเจาะลึกแบบไม่จำเป็นแบบในนิยาย ทั้งๆ ที่เสน่ห์ของBOM คือการทิ้งปริศนาให้คนอ่านคิดเอาเองว่า ตัวละครต้องการอะไร ตัวละครกำลังจะทำอะไรต่อ แล้วก็เหตุการณ์ที่แท้จริงน่ะมันซ่อนอยู่ในการกระทำ และสถานการณ์รอบๆ ตัวในขณะนั้น ไม่ใช่ในความคิดของทิม หรือจองใครหรอกนะคะ ตอนอ่านจะเห็นได้ชัดว่า ไม่มีการบรรยายความคิดของทิมมากไปกว่าคำบ่นเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องตรงหน้า ส่วนมากจะเป็นคำสบถด้วยซ้ำ ไม่มีการบอกว่าเขารู้สึกว่า... เขายังงั้นยังงี้..หรอกนะคะ เพราะงั้นคนอ่านจะได้คาดเดาเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผู้ร้ายจะไม่มีการแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งแต่แรก แล้วก็จะทิ้งปริศนาในคำพูดที่จะโยงไปถึงเล่มก่อนๆ หรือเล่มต่อไปข้างหน้า (อาจจะเป็นเพราะเล่มต่อๆ มาดึงปมตรงนี้ไปเป็นเรื่องต่อก็ได้นะ ขึ้นอยู่กับคนแต่งต่อ) คือปริศนาจะเยอะมากกกกกกๆๆๆๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงต้องทำยังงั้น ทำไมทิมถึงได้มีพลังมากขนาดนั้น ไม่ได้อยู่ว่าทิมใช้พลังทำอะไรได้บ้างสักนิดเดียว ซึ่งคำอธิบายจะมาเป็นบางครั้งบางคราว หรือไม่ก็ทิ้งให้คนอ่านไปวิเคราะห์เอาเองด้วยซ้ำ เรียกว่าการใช้เวทย์ของทิมแทบจะนับครั้งได้เลยว่าน้อยกว่าสิบด้วยซ้ำตลอดทั้งซีรีย์หลายสิบตอน ชีวิตของเด็กคนนี้น่าสนใจเพราะมันคือการค้นหาตัวตนของทิม ไม่ใช่ว่าพลังที่มีอยู่จะสร้างอะไรขึ้นมาได้บ้าง หรือมีอะไรพิสดารในโลกบ้าง เพราะในโลกปกติอย่างเราๆ คนมีพลังเวทย์จะดูประหลาดจนน่ากัวจริงไหมคะ? คือเราชอบอะไรที่เป็นปริศนามากกว่า มันดูน่าค้นหากว่านิยายเด็กที่อะไรๆ ก็คาดเดาได้ง่ายซะจนน่ารำคาญแบบนี้อ่ะค่ะ

บ่นไปก็เท่านั้น เพราะเรารักซีรีย์นี้มากละมั้ง ถึงได้อยากให้เขียนดีกว่านี้ ถึงได้อยากอ่านต่อไป ถึงแม้ภาคนิยายจะไม่ได้ระดับที่ต้องการเลยก็เหอะ (ทนรออยู่ตั้งนานกว่าจะมา ขอแขวะหน่อยนะ 555)เพราะแค่แปลไทยก็เสียความหมายในคำพูดไปเยอะแล้วนะเนี่ย (พวกกลอน พวกคำพูดเล่นลิ้นพอแปลไทยนี่หมดความหมายเลยล่ะค่ะ)

zoe said...

สำหรับเราแล้ว เล่ม3นี่เหมือนเรื่องคั่นเวลาอ่ะนะ ไม่รู้ว่าเล่ม 4 ที่เป็นตอนของแดเนียลจะมีเรื่องอื่นๆ จากในคอมิครึเปล่าน้อ ภาคหลังนี่เรื่องเยอะมากๆ หวังว่าจะไม่โมเมเนื้อเรื่องจนดูเด็กๆ แบบเล่ม3อีกนะ (เข้าใจว่ามันเป็นเล่มเสริมของแดเนียลกับมาร์ยา) ในภาคคอมิคมีเรื่องของทิมจากอนาคตกับมาร์ติน แล้วก็นู๋เลอา (ชอบตัวนี้มากกกกกก สุดๆ จะน่าร้ากกกก เสียดายบทสั้นไปนิดส์)ไทเทเนียกับสวามีโอเบรอนจะมาที่โลกอีก แล้วก็ตัวละครอีกเพียบเลย น่าสนใจทั้งน้านนน~

ขอบอกเลยละกันว่า ซูซี่เนี่ยเป็นสาวดอกไม้จากคอมิคเรื่อง Black Orchid (เรามีเรื่องนี้ด้วยล่ะ อ่านเจอชื่อซูซี่ก็อึ้งเลย ไม่คิดว่าจะเอามาใช้ในนิยายเรื่องนี้ด้วย)เป็นซูเปอร์ฮีโร่ของDCคนนึงเหมือนกัน ด้วยความที่เกิดจากดอกไม้พันธ์พิเศษ คือสามารถมีร่างได้เยอะแยะ และแตกหน่อได้อีก แต่ทุกตัวจะมีความทรงจำจากต้นแบบชื่อ ซูซาน (เป็นผู้หญิงที่คนสร้างแอบหลงรักมาตลอด แต่มาถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือสามีของเธอเอง)เป็นเรื่องที่Neil Gaimanแต่งเอาไว้ มีแจมๆ กับโลกBatmanหน่อยๆ ด้วย เนื้อเรื่องแนวหดหู่ ปนขำๆ ค่อนข้างตลกร้ายเอาการ อ่านแล้วก็แอบสงสาร เพราะซูซี่คนแรกที่เป็นฮีโร่ก็โดนฆ่าตายโดยเผาทั้งเป็น ส่วนซูซี่อีกคนนึงก็หนีหัวซุกหัวซุนพร้อมซูซี่น้อย ขณะที่ห้องแล๊บที่ให้กำเนิดพวกเธอก็โดนทำลายจนย่อยยับ
(มีเรื่องเกี่ยวกับพวกมาเฟีย แล้วก็เล็กซ์ ลูเธอร์ก็เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ด้วย) สุดท้่ายเธอก็หนีไปถึงป่าอเมซอนแล้วก็แตกหน่อที่นั่น ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีภาคต่อหรือภาคเสริมของBlack orchidอีกนะ แต่เท่าที่รู้คงจะไปแจมๆ กับฮีโร่ตัวอื่นๆ ซะมากก่า ^__^ บุคลิกหลักๆ ของซูซี่ก็จะประมาณใสๆ มองโลกในแง่ดี แต่มีจิตใจรักความยุติธรรม แต่ที่ให้มาตายในนิยายนี่ค่อนข้างแปลกๆ แฮะ (ในคอมิคBlack Orchidเรียกว่าอึดพอๆ กับซูเปอร์แมนเลยแหละ แต่ดันบอบบางเพราะเป็นดอกไม้) เอาน่า แฟนตาซีๆ

ความงามของไทเทเีนียนี่เป็นอะไรที่แล้วแต่คนวาดอ่ะนะ แต่เพราะเป็นถึงราชินีแฟรี่ รูปลักษณ์ก็จะประมาณหน้ายาว จมูกโด่ง หูแหลม ตาคม คือจะคล้ายๆ พวกเอลฟ์ในนิยายแฟนตาซีทั้งหลายน่ะแหละ แต่เรื่องสีผิวที่ว่ามันสวย เราก็ว่ามันดูพิลึกดี แต่เค้าว่าเอลฟ์ผิวสีเขียวจะสวย แต่เท่าที่เราดูเราก็ยังมองไม่ออกว่าผิวสีเขีียวมันสวยยังไง คงคล้ายๆ หยกใสๆ ล่ะมั้งนะ เราว่า ^^;

อ้า ฉากที่ฉะกันระหว่างไทเทเนียกับทิมนั่นแหล่ะ ที่ยกมาจากเล่ม 2 ตามแบบคอมิคที่เราเล่าไปนั่นแหละ ทิมตื่นขึ้นมาพบว่าแทมลินเดี้ยง ไทเทเีนียเดินเข้ามาเจอะพอดี แล้วก็บอกทิมว่า "เจ้าเป็นต้นเหตุการตายของพ่อเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็จงรับคำสาบแช่งจากแม่เจ้าด้วย"
ทิมเลยถามว่า "งั้นคุณก็เป็นแม่ผมสินะ"
ไทเทเนียก็พูดประมาณว่า ถ้าชั้นรู้ว่าจะต้องอุ้มเด็กที่ฆ่าพ่อตัวเองอย่างแก ชั้นคงทำลายแกทิ้งเสียแต่แรก (โหดดีมั้ย?)
ทิมเลยประชดว่า "มิน่าล่ะ ผมสงสัยมานานแล้วว่านิสัยโมโหร้ายของตัวเองมาจากใคร ถ้ากรุณาสาบแช่งจบ ผมคงต้องไปแล้วล่ะ"
ไทเทเนียสาบส่งให้ทิมกลับไปโลกสีเทา(ลอนดอน) หรือนรกก็ช่าง แล้วย้ำว่าด้วยว่า จงรู้ไว้ซะว่า เจ้ามันเด็กไร้พ่อ ไร้แม่ และถูกสาบ (อ่านเป็นภาษาอังกฤษจะได้อารมณ์โคดๆ)

ทิมก็ตบท้ายด้วยการบอกว่า "เฮอะ ผมรู้อยู่แล้วน่าว่าผมเป็นใคร นังมารร้าย (your royal bitchinessเนี่ยควรแปลว่าอะไรดีนะ?) ผมก็คือผมไงล่ะ จบ! ซึ่งมันก็ดีกว่าการเป็นลูกคุณเป็นไหนๆ ไม่อยากจะว่าหรอกนะ ผมว่าคุณเป็นแม่ที่เฮงซวยที่สุดเลยละ่ ถ้าคุณเคยเป็นแม่ผมอ่ะนะ"
"ลาก่อน"

แล้วทิมก็จากไปพร้อมกับก้อนหินของแทมลิม เทียนไขในห้องก็ดับสนิท พร้อมไทเทเนียที่เหมือนจะหมดสิ้นทุกสิ่งแล้วปิดเรื่องด้วยคำว่า "ลาก่อน"

เราว่าจบแบบนั้นมันได้อารมณ์ดีกว่าในนิยายเป็นไหนๆ เพราะคนอ่านจะคิดเหมือนทิมว่า ครึ่งนึงเป็นมนุษย์ที่แปลงเป็นเหยี่ยวได้ (จากเวทมนต์) กับครึ่งนึงเป็นชาวแฟรี่ชั้นสูง (แม่เป็นถึงราชินีเชียวนา) ซึ่งมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลว่าทำไมทิมถึงได้มีเวทย์เยอะขนาดเป็นพ่อมดชั้นเยี่มได้ แต่ตอนหลังจะมีเซอไพรซ์เกี่ยวกับต้นกำเนิดทิมเพิ่มเติมอีก เรียกว่าแค่ปมนี้ก็พลิกได้ตลอดไม่มีเบื่อเลยล่ะ แต่แน่นอนว่าธีมหลักคือการค้นหาตัวตนของทิม เราเลยไม่เคยคิดว่าเวทย์ของทิมจะต้องยิ่งใหญ่หรืออลังการอะไร เพราะแค่ตัวทิมเองก็น่ากลัวพออยู่แล้ว (แค่ความน่าจะเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ก็ทำให้โลกปั่นป่วนได้แล้วนั่นแหละ) ช่วงนี้แหละที่สนุกที่สุด พอจบภาคที่จอห์น เนย์ ไรเดอร์แต่งไว้แล้ว พอทิมเริ่มโตขึ้น เริ่มเก่งเวทย์มากขึ้น มันก็เลยเหมือนจะหลุดๆ ธีมหลักไปยังไงยังงั้นแหละ ^^; ยิ่งมีภาคที่ให้ไปเข้าโรงเรียนเวทย์ขาวยิ่งหลุดเลย คนนึกว่าจะให้ทิมตามHPไปซะงั้น.. ไม่ค่อยเวิร์คอย่างแรงอ่ะ แหม จบลงด้วยการบ่นอีกละเรา

zoe said...

อืม นอกจากหัวโขมยบารามอสเล่มแรก (ที่ได้มาฟรี) แล้วเราแทบไ่ม่ได้แตะนิยายเลยอ่ะค่ะ ^_^; คงให้ความเห็นอะไรไม่ได้ แต่ปกเล่มใหม่สวยดีแฮะ
ช่วงนี้หมดตังค์ไปกะการ์ตูนซะเยอะ ยิ่งเด๋วนี้แพงๆ ทั้งน้านน วันนี้ซื้อxxxHolic ของClamp แล้วเสียดายตังค์นิดๆ ไม่ค่อยสนุกอย่างที่คิดเลยอ่ะ แต่อย่างน้อยก็ได้อ่านแล้ว ไม่ต้องคาใจอีกต่อไป ถ้าใครถามเราคงต้องบอกว่า ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของClamp อ่านแล้วก้อเรื่อยๆ ไม่มีอะไรพิศดารเท่าไหร่ คิดว่าคงไม่ซื้อเล่มต่อแล้วล่ะ มันน่าเบื่อเกินไปสำหรับเราอ่ะ (ชอบคุณหมอไคมากก่าเยอะ แนวเรื่องมันคล้ายๆ กัน แต่suspenseเทียบหมอไคไม่ได้เลยสักนิด)

แถมตย.หน้าตาเจ๊Black Orchid :P
http://3mpub.com/johnson/images/black%20orchid%20web.jpg
http://www.lambiek.net/artists/mckean_dave/mckean_blackorchid.jpg

ต้นแบบเจ๊ (น่ากัวดี)
http://www.comicboards.com/dcb/attachments/050711194122/Black%20Orchid%20428.jpg

zoe said...

ที่จิงในคอมิคจะมีภาพซูซี่น้อยด้วย เวลาปกติจะตัวม่วงๆ ผมตั้งๆ แบบซูซี่โตเลย แต่ตอนแปลงร่างเป็นคน จะผมหยิกสีดำ แต่ตาจะยังม่วงอยู่ ดูแล้วแปลกๆ ดี

อืม เรื่องหนังจอเงินของBOMนี่คงอีกหลายปีอ่ะค่ะ เพราะNeil Gaiman กำลังพยายามสร้างหนังให้Deathอยู่ ^__^ คล้ายๆ ลองฝึกฝีมือดูก่อน ค่อยคิดเรื่องต่อไป แบบว่าเค้าคงผิดหวังที่เห็นหนังที่ทำจากการ์ตูนหลายๆ เรื่องบิดเบือนเนื้อเรื่องไปมาก (อย่างLXGนี่ คนแต่งตัวจริงตัดใจไม่เอาตังค์เลย เพราะเค้าถือว่าไม่ใช่เรื่องของเค้า ไม่อยากให้เรียกว่าLXGด้วยซ้ำ) เพราะงั้นคงรอกันอีกนาน ที่สำคัญมีHPอยู่แล้ว ตลาดคงยังไม่ต้องการBOM ถ้าให้เปลี่ยนแนวให้เป็นอย่างHP เราว่าNeilคงไม่ยอมแน่ๆ (เราก็ไม่เอาอ๊ะ) แค่ทิมถูกเปลี่ยนให้เป็นผมบลอนด์ ไม่สวมแว่น จอห์นเปลี่ยนเป็นผมดำ เราก็แทบกรี้ดดดดแล้วอ่า รับไม่ด๊ายยยยยยยยย แบบนั้นมันจะใช่BOMได้ยังงายยยย

ไมฮิเมะภาคแรกเราดูไปได้แค่ตอนสองตอนแล้วก็ขี้เกียจดู (แต่ช่วงนั้นพี่มันเป็นไมฮิเมะฟีเวอร์ตลอดเลยนา แต่ตอนจบคงไม่ประทับใจเท่าไหร่ เลยไม่พูดถึงอีกเลย ได้ยินว่าพระเอกเห่ยจัดนินา) ภาคนี้ไม่รู้พี่จะโหลดมาดูมั้ย ตอนนี้กะลังคิดจะกลับไปนั่งดูอนิเมเก่าๆ มากก่า ยังหาทางเปิดPatlaborภาคมูวี่ไม่ได้เลยง่า เครื่องเรามันเห่ยขนาดนั้นเชียวหรอ?

วันนี้ไปงานVBKมาค่ะ ด้อมๆ มองๆ บู้ทที่ขายแผ่นกันดั้ม ทำไมเค้าไม่ทำDVDให้08thซักทีง่า อยากได้ๆๆๆ มองแผ่นสุดท้ายด้วยสายตาละห้อย (ฮา) อยากดุตอน 12 แต่ไม่อยากฟังเสียงพากษ์ไทย เลยยังตัีดใจไม่ซื้อซักที... Y-Y

zoe said...

ส่วนนึงที่ีทำให้ไม่คิดจะดูไมฮิเมะแต่แรก คือ มันมีผู้หญิงเยอะเกินไป (รู้สึกว่าพ่อหนุ่มปริศนานั่นก็เป็นผู้หญิงใช่่ป่ะ)แบบว่า เราเองก็ไม่พวกบ้าY อะไรหรอกนะ (ผู้ชายเยอะเกินไปเราก็ไม่ชอบดู) แต่ให้มาดูการ์ตูนที่มีแต่สาวๆ วิ่งพล่านเนี่ย มันก็ยังไงอยู่เนอะ ถึงจะชอบไม ชอบมิโคโตะนิดๆ (พี่เรามันบ้ามิโคโตะเข้าขั้นเลยล่ะ) ส่วนทาเทะนี่เหมือนหลุดมาจากพวกการ์ตูนจีบสาว ยิ่งทำให้หมั่นไส้เข้าไปใหญ่ (ฮา) พอดูๆ ไปได้สักพัก เราก็เลิกดู ส่วนพี่เราก็บ้าอยู่พักใหญ่ เล่าตอนต่อให้ฟังตลอดเลย (จนเรานึกว่ามันจะถึงขั้นทำโดจินให้เรื่องนี้ซะแล้ว ผิดคาด ไปทำGunbuster2 ซะนี่) บอกว่า พลิกเรื่องเจ๋งดี น่าติดตามโคด ไรทำนองนั้นแหละ

ส่วนโอโตฮิเมะ พี่มันเริ่มดูดแล้วล่ะ (ฮา) ไว้รอดูรีแอคชั่นมันก่อนว่าน่าดูมั้ย
ตอนนี้เราเริ่มดูFMP:TSR แล้วล่ะค่ะ พี่มันดูดตอนจบมาเมื่อวาน (ยังทำท่าไม่เชื่ออีกว่า 13 ตอนจบ) นั่งดูกะมันไม่ได้เลย แค่เกริ่นๆ ถามว่าเรื่องมันเป็นอย่างที่เราิิึคิดมั้ย ทำเป็นมาพาลใส่เราเฉย หาว่าทำไมไม่รู้จักดูเองเล่า (อ้าววว ก็ดูอยู่ไง แค่หาคนคอนเฟิร์ม เผื่อว่าเราจะเข้าใจผิดไปก็เท่านั้นเอง) ก็เข้าใจนะว่า กะลังเล่นเกมอยู่ แล้วเรามานั่งดูอนิเมข้างๆ มันเลยเปิดเฉลยบนคอมพ์ดูไม่ได้... แง่งงงง เราเลยได้ดูแค่ 8 ตอนเองมั้ง..(ตอนที่เจ๊คนนั้นตายน่ะ) สงสารจิโดริจัง ทำอะไรเกินตัวชะมัด เทสซ่าก็สงสารนะ แต่เราชอบคู่โซสึคานะมากก่าง่ะ...ไม่อยากให้โซซึเกะเลี้ยงต้อย (ฮา)ที่สำคัญผมเทสซ่าภาคนี้ไม่สวยเลย สองภาคก่อนหน้าผมสวยน่ารักมาก แล้วก็เสียงเด็กๆ เวลาทำท่าจริงจังมันดูขัดๆ พิกล เราเลยไม่ชอบที่เธอเป็นผู้นำกองทัพเท่าไหร่ มันให้อารมณ์แปลกๆ ง่ะ เป็นเราคงไม่พอใจเท่าไหร่ ถ้ามีหัวหน้าเป็นเด็กตัวกะเปี้ยก ถึงจะเก่งขนาดวางแผนรบ สร้างยานได้ก็เหอะ

ไ้ว้พี่อารมณ์ดี จะไปนั่งดูตอนต่อให้จบ..เราก็ชอบFMP:TSR เหมือนกันนะ ตื่นเต้นดี เจ๊มาโอเท่ห์โคดด แต่ภาคนี้มีแต่ตัวละครน่าหมั่นไส้นะ ผู้ร้ายนี่น่าฆ่าทิ้งยกแก๊งค์เลย (ฮา)พี่ชายของเทสซ่าก็น่าฆ่าทิ้ง (กรี้ดดด บังอาจมาแย่งเฟิร์สคิสของคานาเมะ ยอมไม่ด้ายยยยยย ตาบ้าโซสึเกะมัวทำไรอยู่ฟระ แง่งงงง)

zoe said...

ขอบคุณมากค่าสำหรับคำแนะนำ ^___^ แต่ว่าไฟล์มันไม่ใช่ทั้ง.mpeg ทั้ง.avi เลยน่ะสิคะ รู้สึกจะเป็น.dat หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ (ไม่แน่ใจ) แต่เราหาโปรแกรมเปิดไม่เจอ คิดว่าเด๋วคงต้องไปดูที่ห้องพี่ชายซักหน่อย (แต่ต้องรอให้อารมณ์ดีก่อน) ลองๆ ถามพี่ว่า เป็นไง หนุกมั้ย? เพราะเป็นการ์ตูนหุ่นที่ตอนเด็กๆ เห็นแล้วแอบคลั่ง ชอบหุ่นมากกกก คิดว่าสวยสุดๆ เลย (เราโตมากับการ์ตูนหุ่นของฝรั่ง นอกจากTransformerที่เป็นหุ่นพูดได้แล้ว ปกติเราจะไม่ชอบหุ่นยนต์เท่าไหร่ มันดูเทอะทะ น่ารำคาญ แต่ดันประทับใจหุ่นเรื่องนี้ นอกนั้นก็ชอบกันดั้มV รู้สึกว่ามันเรียบง่ายแต่ดูดีจัง) พี่มันบอกว่า ไม่เห็นเกี่ยวกะหุ่นเท่าไหร่เลย หุ่นเหมือนเป็นแค่ปืนพกของตำรวจ แค่ใหญ่เท่านั้นเอง (ฮา) แถมดราม่าจ๋า แล้วยังเดินเรื่องเนิบนาบอีก แต่ว่าBGสวยมากเลย เหมือนทำมาขายฉากมากก่าตัวละครซะอีก อืมม ก็ถึงบางอ้อล่ะนะ เพราะเคยดูอนิเมของผกก.คนนี้มาแล้ว เค้าจะประมาณนั้นแหละ ไม่ค่อยเน้นแอคชั่นเท่าไหร่ เดินเรื่องเอื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษเท่าไหร่ ฟังๆ แล้วเราก็งง "อ้าววว แล้วมันดังได้ไงอ่ะเนี่ย?" พี่เราคิดว่า คงเพราะช่วงนั้นไม่ค่อยมีอนิเมประมาณนี้เท่าไหร่มั้ง ที่เน้นดราม่าน่ะ (พอหลังอีวามา อะไรๆ ก็เปลี่ยนหมดเลยเนอะ) แล้วโนอาล่ะ น่ารักมั้ย? ...ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับโนอาเท่าไหร่เลยนิ ^^; สรุปว่า เราคงต้องไปดูเองซะละมั้งเนี่ย!

อ๊ะ เราพูดให้เขวรึเปล่า ที่บอกว่า พี่เราบ้าไมฮิเมะ แต่ไม่ได้บ้าสาวน้อยแปลงร่างถึงขนาดนั้นหรอกนะคะ ^^; (ถึงจะชอบPretty-Qอยู่บ้างก็เถอะ) เห็นบอกว่าชอบไมฮิเมะ เพราะเดินเนื้อเรื่องน่าติดตามดี มีอะไรให้เซอไพรซ์ตลอด ที่สำคัญกดดันตัวละครได้ดี เหมือนค่อยๆ ต้อนให้หมดทางเลือก อันนี้เราก็ฟังๆ มาอ่ะนะ (กะตะล่อมให้เราดู แต่สุดท้ายเราก็ขี้เกียจดู) ไปตายตอนจบซะได้ (ฮา) แหมๆ เหมือนคิดไรไม่ออก เลยมั่วนิ่มจบซะยังงั้น

เย้ ดูFMP:TSRจบแล้วค่ะ เหอ เหอ โดนเปิดให้ดูตอน13 ก่อนดูตอน10-12เฉยเลย 5555 ดูแล้วก็กรี้ดดดดดดจิโดริจัง~!!!! เธอสุดยอดมาก (กลับมารักจิโดริอีกแล้วสิเนี่ย)เจ๊มาโอสุดยอดแห่งความเท่ห์เลย อ๊างงง (ภาคนี้เธอเปรี้ยวจี้ดดีจิงๆ ชุดราตรีเซะซี่มั่กๆ) นู๋เทสซ่าดูแล้วขำดี ตอนซีเรียสก็ดูดีนะ กรี้ดดดคู่โซสึคานะ ตอนดูภาค1 รู้สึกจบไม่เคลียร์ (แอบไม่ประทับใจจิโดริกะโซสึเกะเล็กน้อย) ภาคFumufu ก็เหมือนแค่แย้บๆ ไม่เอาจิง (มัวไปฮาตัวละครอื่นอยู่น่ะ)แต่ภาคนี้โซสึคานะสุดๆ เลย กรี้ดดดด ดีใจจัง จบดีค่ะ สำหรับเรานะ พี่เราบอกว่าตรงกะนิยายเป๊ะๆ เลย คือมันดูรวบรัดไปนิด เหมือนทำไมจบง่ายจังนะ แต่มันจบได้จิงๆ นะ เหมือนห้วนๆ แต่ดันมีช่วงเวลาอ้อยอิ่งให้งงว่า มันจะจบไงหว่า? ที่ไม่พอใจในFMP คงเป็นเรื่องแสงน่ะค่ะ เ้ค้าชอบเล่นแสงแรงๆ ดูแล้วปวดตา คือพวกback light ย้อนแสงพวกนั้น มันดูเวอร์มั่กๆ ตอนภาคแรกเราก็รำคาญกับแสงอาทิตย์ยามเย็นที่แดงแปร๋นจนน่ารำคาญมาแล้ว ภาคFumufu นี่ไม่มัวแต่ฮา ฉากซึ้่งไม่ค่อยเด่น เลยไม่สนใจแสงเท่าไหร่ ภาคนี้มาตอนจบก็เอาอีกละ แสงแป้ดมาเลย ดูกี่ที เราก็แทบกรี้ดทุกที~ ทำแสงให้มันนุ่มนวลกว่านี้ไม่ได้รึไง รึว่ามันเป็นสไตล์ของFMPไปแล้วล่ะเนี่ย? เราว่านอกจากดูไม่สวย แล้วยังปลอมๆ ซะอีก (อุตส่าห์ทำฉากฮ่องกงซะละเอียดยิบ ดูแล้วประทับใจฉาก แต่ดันมาตายตรงเรื่องแสงซะนี่)
สรุปว่า FMP:TSR ประทับใจค่ะ เดินเรื่องเร็วดี ถึงจะมีช่วงอืดจนน่าอึดอัดใจ แต่ช่วงแอคชั่นทำได้ดี เจ๋งสุดๆ เราชอบการวางแผนรบในเรื่องนี้ ดูทหารๆ ดี (ถึงจะแอบงง เพราะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ทำให้อยากดูอีกรอบนะ) ฉากแอคชั่นหุ่นก็ดูแรงดี ไม่มั่วๆ เว่อร์ๆ แบบกันดั้ม (อันนั้นเท่ห์ แต่พูดตรงๆ ว่าไม่ชอบเท่าไหร่ มันดูเป็นการ์ตูนขายหุ่นมากไปหน่อยน่ะ ของGunbuster2ก็เหมือนกัน เจตนาขายของเยอะไปนิดส์)แต่หุ่นFMPไม่สวยเท่าไหร่ในสายตาเรา ดูกี่ทีก็รู้สึกเหมือนหุ่นของโซสึเกะคาบแท่งอะไรในปาก เหมือนหมาเลยอ่ะ (ก็เป็นแค่เครื่องมือนินะ) ไม่เท่ห์เอาซะเลย.. ที่ให้โซสึเกะคุยกะA.I.ในเครื่องมันดูตลกๆ ไปนิด (ถึงจะทำให้เข้าใจว่าสถานการ์ณเป็นไงได้ง่ายขึ้น แต่มันรู้สึกเหมือนพระเอกต้องมาคอยฟังA.I.อีกทีเนี่ย ถึงพระเอกจะเก่งยังไง ก็ดูไม่เต็มที่อยู่ดีน่ะแหละ)
จะหักแต้มเพราะแสงกะหุ่นนี่แหละ (ฮา) แต่บทพูด การเดินเรื่องทำได้ดีนะคะ ชอบตรงนี้มากๆ เลย ตัวละครก็เด่นดี ^__^ อยากให้มีภาคต่อเร็วๆ จัง~ แอบสงสารโซสึเกะ โดนอัดอย่างเดียวเลย (เป็นคนอื่นคงเดี้ยงไปนานแล้วล่ะ)หรือว่า นายเป็นมาโซ?!

zoe said...

ขอโทษค่า~ จำผิดๆๆๆๆๆ >o<
เป็นไฟล์ (DUAL.AUDIO).XVID.อ่ะค่ะ ลองเปิดๆ ดูแล้วมันบอกว่ามีปัญหาอะไรซักอย่าง..(ไม่แผ่นเสีย ก็โปรแกรมไม่ซัพพอร์ตนี่แหละ)เซ็งเลย~ เป็นแผ่น DVDของพี่น่ะ เลยไม่รู้ว่าปั้มมาดีรึเป่าเนี่ย (แต่เครื่องเจ้าตัวก็ดูได้นะ ถ้าจำไม่ผิด)

แง่มๆๆ ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายค่ะ Y-Y

zoe said...

Patlabor สุดท้ายก็ยกไปดูห้องพี่จนได้ แ่ต่โดนคนข้างๆ กรอกหูตลอดเลย น่ารำคาญมากกกกก (ไม่อยากดูอนิเมกะพี่ก็เพราะแบบเนี้ย) เราดูแต่ภาค1 จบ เห็นว่ามันเป็นอนิเมเก่า (ตั้งปี 1989) เราก็เลยไม่ถือมาก ถึงจะมีช่ีวงยืดยาด ช่วงค้างนาน (ประเภทตัวละครค้างไป 2-3นาที แบบไม่มีอะไรเลยเนี่ย นึกว่าแผ่นสะดุดซะแล้ว) แล้วก็เปิดตัวมานึกถึงTransformersอย่างจัง เพลงธีมน่ะค่ะ เพลงการ์ตูนหุ่นสมัยนั้นเป็นแบบนี้แทบทุกเรื่องเลยสินะ XD ก็แปลกดี ถึงหุ่นจะดูกระป๋องไปหน่อย แต่ฉากสวยมากๆ เลยนะ พี่มันโดนGainaxสปลอยซะเคยตัวเลยรับกับการ์ตูนแบบนี้ไม่ได้ (เอาน่า ถึงมันจะห่วยยังไงมันก็เคยมีช่วงเวลาของมันน่ะนะเราว่า)รู้ึสึกว่าจะนั่งทะเลาะกันมันบ่อยๆ เพราะเราไม่ชอบการ์ตูนหุ่นสู้สัตว์ประหลาดเท่าไหร่ ชอบหุ่นสู้หุ่นด้วยกันมากก่า ม้ันดูแฟร์ๆ ก่า ประเภทหุ่นเล็กก่าศัตรูสิบเท่างี้ไม่เอาด้วยอ่ะ แล้วก็เพราะมีคนตายเพราะมือคนด้วยกันเอง มันเลยดูโหดร้ายกว่าตายเพราะสัตว์ประหลาดเยอะเลย ถึงสุดท้ายแล้วจะไม่ได้เป็นฮีโร่จิงๆ ก็เหอะ แต่พี่มันคิดว่าหุ่นสู้หุ่นมันเป็นคอนเซ็ปงี่เง่าเกินไป ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนสูงขนาดนั้น ถ้าศัตรูไม่ได้เ่ก่งเวอร์เป็นมนุษย์ต่างดาวจะต้องสร้างไปทำไม เปลืองตังค์เปล่า แต่แหม มันก็การ์ตูนอ่ะ เอาเท่ห์ เอามัน เอาสวยไว้ก่อนไม่ได้หรอ (สำหรับเราถ้าหุ่นไม่สวยก็ไม่ชอบเหมือนกัน ถึงเรื่องจะดีเยี่ยมก็เหอะ)

เพิ่งเปิดภาค2ไปได้แป๊บเดียว แผ่นหยุดซะแระ (เป็นบ่อยค่ะ) แต่เห็นพัฒนาการเยอะมาก หุ่นแจ่มขึ้นเยอะเลย (ชอบคนดีไซน์ภาคนี้มากก ดูรายละเอียดเจ๋งดี)ว่าแต่Patlaborมีอะไรกะคนโดดตึกนักน้า ภาคแรกก็เปิดตัวด้วยคนโดดตึกตาย ได้ยินว่าภาค2ก็จะมีคนโดดอีก (ฮา)

อ้า เป็นfile ogmอ่ะค่ะ กว่าจะปรับให้ฟังเสียงญี่ปุ่นกะซับEngได้ (ฟังพากษ์Engก็โอเคหรอก แต่อยากฟังของจริงไปเลยมากก่า)ก็แทบแย่แน่ะ ^^;

FMP:TSR คงเพราะดูแบบรวดเดียวจบ (2วัน) เลยไม่ค่อยรู้สึกไรกะสองสาวเท่าไหร่ มัวไปสนใจพวกโซสึคานะ แล้วก็ผู้ร้ายตัวเอ้ก็กวนตีนดีมาก (แหม กะลังดูแฟนเซอร์วิสสองสาวอยู่ดีๆ ก็ดันต้องมาดูร่างเปลือยของตานี่ คิดแล้วเสียสายตาเจงๆ แต่หมอนี่ฮาดีนะ โผล่มาทีไรได้ขำกลิ้งทุกที)อ้า ไม่คิดว่าจะได้เจอรักแรกของโซสึเกะ (ฮา) นอนพะงาบๆ อยู่ แบบว่าิเกาลูนนี่เป็นอะไรที่โรคจิตดี หลงไหลโซสึเกะจนน่าเกลียดเลย (แต่จบภาคแรกทำเอาคิดว่ามันYกันจังเลยน้า คู่นี้ เรียกชื่อกันอย่างเร่าร้อนเลยล่ะ ทำไมคิระอาสึในซี้ดไม่เป็นแบบคู่นี้มั่งว้า แบบว่าศัตรูคู่รักคู่อาฆาตจนตอนสุดท้าย แล้วมาต่อกันอีกภาคไรเงี้ย) ก็คิดเหมือนกันว่าคานะจังทำไรเกินตัวชะัมัด แต่พอดูตอนสุดท้าย 55555 ชอบเธอเจงๆ แรงดี (ทำเอาน้ำตาเทสซ่าแพ้ย่อยยับเลยล่ะ แบบว่าโซสึคานะเต็มที่อ่ะ)

เกมออนไลน์เด๋วนี้ไม่ได้แตะเลยค่ะ ^_^; ไม่มีเวลา ไม่มีอารมณ์เล่น ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่แล้ว เรามันพวกไม่เก่งเล่นเกม ตอนเล่นRO ทำไปก็เพื่อเก็บของสวยๆ ใส่เล่นเท่านั้นเอง (เหมือนแต่งตุ๊กตาไง)ช่วงนี้พี่กะลังเคลียร์เกมกันดั้มTrue Odysey อยู่ค่ะ คาราดีไซน์เจ๋งดี พระเอกหน้าหวานนนมาก (แถมใส่ผ้ากันเปื้อนอีก)นางเอกเป็นตุ๊กตาง่ะ... (ไม่ชอบประเภทนี้เลย) ชอบเจ๊กังฟู อย่างเท่ห์ ภาคนี้ได้เจอกันดั้มจากภาควิงเยอะดีจัง คิดถึงๆ

เรื่องงานการ์ตูน จำได้ว่าเอาใบปลิวกลับมาด้วย แต่เด๋วต้องไปหาก่อนนะคะ

zoe said...

อุแหม พี่เราเค้าถึงธีมหุ่นสู้สัตว์ประหลาดในเชิงวิชาการเชียวนะคะ XD คือ ถ้าพูดถึงในเชิงเศรษฐกิจสังคม สงครามหุ่นยนต์เป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมากเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะมาจากนอกโลก (ตย.Transformer) หรือสร้างเพราะจำเป็นต้องสู้กับสิ่งที่ใหญ่เกินไปที่มนุษย์จะรับมือไหว - สัตว์ประหลาดอวกาศ/ปีศาจ (Eva/Gunbuster) ซึี่งหมายความว่ามันจะต้องมีจำกัด และเป็นเรื่องระดับโลก แต่ถ้ามีหุ่นจริงก็น่าจะเป็นแบบPatlabor คือมีใช้ในชีวิตประจำวัน หรือไม่ก็เป็นเครื่องมือทางทหารที่มีจำนวนจำกัดมากๆ ใช้เฉพาะสถานการ์ณ เพราะมูลค่าสูงเกินไป การดูแลรักษาก็ยาก (FMP)
คือจะสรุปว่าสงครามกันดั้ม ถ้าพูดถึงเรื่องlogicกันแล้ว มันไม่มีเลยน่ะสิ ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะ เพราะเราดูกันดั้มทีไร มักจะไม่สนฉากแอคชั่นของหุ่น สนแค่ตัวคนขับอย่างเดียว เพราะหุ่นมันเกร่อ หุ่นมันเป็นของโหล แถมทำลายล้างซะเวอร์ปานนั้นไม่รู้ไปเอางบเอาเสบียงมาจากไหน แต่เพราะไม่ได้ดูเพราะหุ่น ดูเพราะตัวละคร เราเลยไม่ค่อยมีปัญหากับกันดั้มเท่าไหร่ (พี่เรามันหาว่า นี่มันการ์ตูนขายหุ่น ถ้าไม่ดูเพราะหุ่นจะดูไปทำไม)แต่กับซี้ดนี่รับไม่ได้จิงๆ โผล่มาๆๆๆๆๆๆ แล้วก็มาอีก กลายเป็นของโหลยิ่งกว่าโหลอีก (ตอนวิงเราโอเค เพราะเอารุ่นเก่ามาอัพเกรดในตอนท้าย หุ่นที่เหลือก็ไม่ใช่กันดั้ม กันดั้มมีไม่เกิน 6 ตัว เราว่าก็ยังเยอะไปนิด แต่ตัวละครเอกมันเยอะเลยหยวนๆ ให้ได้)

5555 มัวแต่ขำอาการของผู้ร้ายFMP:TSR จนไม่จำชื่อเลย เราว่าเพราะมันบ้าสุดฤทธิ์ขนาดนั้นถึงได้สมควรแก่การฆ่าทิ้งจิงๆ (แหม ขนาดตอนตายยังมีเก๊กๆ อีกนะ ร้ายกาจ) สองสาวนั่นก็เลือดเย็นเกินเหตุ สมควรกำจัดทิ้ง แต่ให้ผู้ร้ายด้วยกันเองจัดการก็ดีแล้วล่ะ ไม่วันใดวันนึงก็ต้องลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเองอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องให้พระเอกทำมันทุกเรื่อง เพราะพระเอกไม่ใช่พระเจ้า (แอบกัดซี้ดอีกล่ะ)ชอบFMPในแง่นี้อ่ะ ลงตัวดี

อ้อ Comicketเดือนธค.นี้ วันที่ 17-18 นะคะ ^_^ มีสองวันแน่ะ (แต่คงไปได้แค่วันเดียว.. ลองๆ ลางานดูดีมั้ยน้อ)

ช่วงนี้บ้าอ่านฟิคนารุโตะ คู่เนจิฮินะค่ะ ฮินาตะกลับมาแล้ว กรี้ดดดดดดดดด ชอบๆๆๆๆๆๆ น่ารักๆๆๆๆๆ ผมยาวแล้วสวยขึ้นนะ หน้ายังกลมๆ อยู่เลย ดีใจจัง คิดถึงแดจังกึมเลย (ฮา) ชอบผู้หญิงสไตล์นี้มั่กๆ ที่จิงกะเขียนบล๊อคถึงคู่เนจิฮินะด้วย (กะลังคลั่ง) แต่เน็ตหลุดซะก่อน เลยหมดรมณ์เขียนต่อเลย...